ซองพลาสติก vs กล่องกระดาษ เลือกแบบไหนดี?

ซองพลาสติกคืออะไร เหมาะกับงานแบบไหน

ซองพลาสติกที่ใช้ส่งพัสดุ มักผลิตจากพลาสติกชนิด PE หรือวัสดุใกล้เคียง มีคุณสมบัติเด่นคือ น้ำหนักเบา เหนียว และกันน้ำได้ดี จึงนิยมนำมาใช้กับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องส่งของจำนวนมากทุกวัน

[3][4]

ซองพัสดุพลาสติกเหมาะกับสินค้าอย่างเช่น เสื้อผ้า แฟชั่น แอสเซสซอรี หนังสือ เอกสาร และสินค้าที่ไม่แตกหักง่าย เพราะไม่ต้องใช้โครงสร้างแข็งแรงมาก แต่เน้นให้ถึงมือลูกค้าแบบประหยัดค่าใช้จ่ายและรวดเร็ว

[4][3]

ข้อดีของซองพลาสติก

  • น้ำหนักเบามาก ช่วยลดค่าส่งพัสดุ และประหยัดต้นทุนโดยรวม เหมาะกับร้านที่ส่งของทุกวันหรือมีปริมาณออเดอร์สูง
  • [3][4]
  • กันน้ำและความชื้นได้ดี ทำให้สินค้าไม่เปียกหรือเสียหายง่ายระหว่างการขนส่ง เหมาะกับฤดูฝนหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
  • [2][4]
  • เหนียวและยืดหยุ่นพอสมควร สามารถรองรับแรงกระแทกเล็กน้อยและการบิดงอระหว่างขนส่งได้ดี ช่วยให้พัสดุไม่ฉีกขาดง่าย
  • [4]
  • ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ และใช้งานสะดวก ซองพลาสติกสามารถซ้อนหรือม้วนเก็บได้ ทำให้จัดสต็อกในร้านหรือคลังสินค้าได้ง่ายกว่า
  • [3]
  • ราคาต่อชิ้นโดยรวมถูกกว่ากล่องกระดาษ เหมาะกับผู้ประกอบการที่ต้องการควบคุมต้นทุนการแพ็กของและค่าขนส่งไปพร้อมกัน
  • [5][4]

ข้อเสียของซองพลาสติก

  • โครงสร้างไม่แข็งแรงเท่ากล่องกระดาษ จึงไม่เหมาะกับสินค้าที่แตกหักง่าย หรือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการการปกป้องมากเป็นพิเศษ
  • [2][4]
  • การจัดวางซ้อนกับพัสดุอื่นอาจเสี่ยงต่อการกดทับ หากสินค้ามีน้ำหนักหรือมีมุมแหลม อาจทำให้ห่อทะลุหรือเสียรูปได้
  • [4]
  • ด้านสิ่งแวดล้อม พลาสติกใช้เวลาย่อยสลายนานกว่า และหากไม่ได้ใช้พลาสติกชนิดรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้โดยเฉพาะ อาจเพิ่มภาระด้านขยะและมลพิษ
  • [6][1]
  • ภาพลักษณ์อาจดู “ธรรมดา” เมื่อเทียบกับกล่องกระดาษ โดยเฉพาะแบรนด์ที่ต้องการความพรีเมียมหรือประสบการณ์การแกะกล่องที่น่าประทับใจ
  • [7]

กล่องกระดาษคืออะไร ใช้เมื่อไหร่ดี

กล่องกระดาษพัสดุหรือกล่องแพ็กสินค้า ผลิตจากกระดาษลูกฟูกหรือกระดาษแข็ง มีความหนาและโครงสร้างที่รองรับแรงกระแทกได้ดี เหมาะกับสินค้าที่ต้องการการปกป้องสูง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เซรามิก ขนม ของฝาก หรือสินค้ามูลค่าสูง

[8][2]

นอกจากนี้ กล่องกระดาษยังเป็นตัวช่วยสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ เพราะสามารถออกแบบงานพิมพ์ โลโก้ สี และข้อความบนกล่องได้อย่างหลากหลาย ทำให้ประสบการณ์แกะกล่องของลูกค้าน่าจดจำมากขึ้น

[9][7]

ข้อดีของกล่องกระดาษ

  • ปกป้องสินค้าได้ดี รองรับแรงกระแทก แรงกดทับ และการซ้อนกล่องระหว่างขนส่งได้มากกว่าซองพลาสติก จึงเหมาะกับสินค้าที่แตกหักง่ายหรือมีน้ำหนัก
  • [8][2]
  • สามารถจัดวางและซ้อนกันได้อย่างเป็นระเบียบ ทำให้ขนส่งและจัดเก็บสะดวก ทั้งในคลังสินค้าและระหว่างการเคลื่อนย้ายของบริษัทขนส่ง
  • [2]
  • เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า โดยทั่วไปกล่องกระดาษสามารถรีไซเคิลและย่อยสลายได้ง่ายกว่า จึงตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลกและความยั่งยืน
  • [1][6]
  • พื้นที่บนกล่องเหมาะกับการออกแบบกราฟิก โลโก้ และข้อความทางการตลาด ทำให้กล่องกลายเป็นสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ที่ช่วยสร้างการจดจำแบรนด์
  • [10][9]
  • ช่วยยกระดับภาพลักษณ์สินค้า โดยเฉพาะสินค้า Premium, Gift set, เครื่องสำอาง และสินค้าที่ต้องการประสบการณ์การแกะกล่องที่มีความ “ว้าว”
  • [9][7]

ข้อเสียของกล่องกระดาษ

  • น้ำหนักมากกว่าซองพลาสติก ทำให้ค่าขนส่งโดยรวมอาจสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อส่งสินค้าจำนวนมากหรือส่งไกล
  • [8][2]
  • ไม่ทนต่อความชื้นและน้ำ หากกล่องโดนฝนหรือความชื้นสูงอาจเปื่อยยุ่ย เสียรูป หรือฉีกขาดได้ง่าย ถ้าไม่ได้มีการหุ้มกันน้ำเพิ่ม
  • [1][8]
  • ใช้พื้นที่จัดเก็บมากกว่า ทั้งก่อนแพ็กและหลังแพ็ก หากต้องสต็อกกล่องหลายขนาดอาจกินพื้นที่คลังสินค้าค่อนข้างเยอะ
  • [8]
  • ต้นทุนตัวกล่องและค่าพิมพ์ลายโดยรวมมักสูงกว่าซองพลาสติก โดยเฉพาะกล่องดีไซน์พิเศษหรือใช้วัสดุกระดาษเกรดสูง
  • [9][8]

ตารางเปรียบเทียบ ซองพลาสติก vs กล่องกระดาษ

[4] [1] [4] [2][8] [3][4] [8] [7] [7][9] [6] [6][1] [5][4] [9][8] [3] [8]
คุณสมบัติ ซองพลาสติก กล่องกระดาษ
การกันน้ำ กันน้ำและความชื้นได้ดีมาก เหมาะกับหน้าฝนไม่กันน้ำ ต้องห่อหรือเคลือบเพิ่มหากเสี่ยงเปียก
การปกป้องแรงกระแทก รองรับแรงกระแทกได้ระดับหนึ่ง เหมาะกับของไม่แตกง่ายป้องกันแรงกระแทกและกดทับได้ดีกว่า เหมาะกับของเปราะบาง
น้ำหนักบรรจุภัณฑ์ เบามาก ช่วยลดค่าส่งหนักกว่า ทำให้ต้นทุนขนส่งสูงขึ้นเล็กน้อย
ภาพลักษณ์แบรนด์ ดูเรียบง่าย เหมาะกับร้านที่เน้นความคุ้มค่าดูพรีเมียม เหมาะกับแบรนด์ที่เน้นประสบการณ์ลูกค้า
ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ขึ้นอยู่กับชนิดพลาสติก ส่วนใหญ่ย่อยสลายยากรีไซเคิลง่าย ย่อยสลายได้ดีกว่า เหมาะกับแบรนด์สายรักษ์โลก
ต้นทุนต่อชิ้น มักถูกกว่า เหมาะกับการส่งจำนวนมากสูงกว่าเล็กน้อย โดยเฉพาะกล่องพิมพ์ลายพิเศษ
การจัดเก็บสต็อก ประหยัดพื้นที่ ซ้อนหรือม้วนเก็บได้ใช้พื้นที่มาก ต้องวางหรือพับเก็บเป็นชั้น

เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับธุรกิจ

หากธุรกิจของคุณเป็นร้านออนไลน์ที่ส่งสินค้าที่ไม่แตกหักง่าย เช่น เสื้อผ้า งานผ้า ของใช้เบาๆ หรือสินค้าที่ไม่ต้องการโครงสร้างแข็งมาก “ซองพลาสติก” จะช่วยลดต้นทุน และทำให้การแพ็กของรวดเร็วขึ้น เหมาะอย่างยิ่งกับร้านที่มีออเดอร์จำนวนมากต่อวัน

[3][4]

แต่ถ้าคุณขายสินค้าพรีเมียม สินค้ามูลค่าสูง หรือของที่แตกหักง่าย เช่น เซรามิก เครื่องสำอาง ของฝาก หรือ Gift set การใช้ “กล่องกระดาษ” จะสร้างทั้งการปกป้องที่ดีกว่า และภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดูมืออาชีพและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

[6][9][8]

สรุปแนวทางใช้งานร่วมกัน

ผู้ประกอบการจำนวนมากเลือกใช้ทั้งซองพลาสติกและกล่องกระดาษร่วมกัน เช่น ใช้กล่องกระดาษแพ็กสินค้าที่เปราะบาง แล้วค่อยใส่กล่องลงในซองพลาสติกกันน้ำอีกชั้น หรือใช้ซองพลาสติกสำหรับสินค้าทั่วไป และใช้กล่องกระดาษสำหรับชุดของขวัญหรือออเดอร์พิเศษ

[7][4]

แนวทางที่ดีคือ แยกประเภทสินค้าและกำหนดมาตรฐานแพ็กของแต่ละแบบให้ชัดเจน จะช่วยควบคุมต้นทุน สร้างคุณภาพการจัดส่งที่สม่ำเสมอ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ของคุณในระยะยาว

[11][12]

สอบถามข้อมูลและสมัครแฟรนไชส์ขนส่งเอกชน

หากต้องการคำแนะนำเรื่องการเลือกซองพลาสติก กล่องกระดาษ บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะกับธุรกิจ หรือสนใจสร้างรายได้จากธุรกิจขนส่งเอกชน สามารถติดต่อทีมงานเพื่อขอคำปรึกษาและข้อมูลแฟรนไชส์ได้โดยตรง

บริษัท พีอาร์ โซลูชั่น (2022) จำกัด
104/48 ม.2 ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี 20000